จากสถิติของสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล และกรมควบคุมโรค ผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทย พบว่าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนที่มีอายุ 50-59 ปี ที่มีโรคประจำตัว ในขณะเดียวกันกลุ่มคนที่พบว่าเป็นผู้ติดเชื้อมากที่สุดนั้น อยู่ในวัยทำงาน ช่วงอายุระหว่าง 21- 40 ซึ่งหากพิจารณาถึงสาเหตุของการติดเชื้อนั้น พบว่าเกิดจากการใกล้ชิดกับผู้ที่ติดเชื้อ มากถึง 390 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 3 พฤษภาคม 2563) รองลงมา คือการติดเชื้อ หลังจากเดินทางกลับจากต่างประเทศ 215 ราย กรณีผู้ที่เกี่ยวข้องกับสนามมวย ซึ่งเป็น Super Spreader ในไทย 175 ราย และติดเชื้อจากการเที่ยวสถานบันเทิง และความเสี่ยงจากอาชีพ รวมกันแล้ว 222 ราย ดังนั้นความเสี่ยงต่อการติดเชื้อจึงไม่ได้ขึ้นอยู่กับช่วงอายุ หรือ การมีโรคประจำตัวอย่างเดียว หากแต่ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้ชีวิต และพฤติกรรมการสังสรรค์ด้วย
แม่หลาย ๆ คนที่กำลังตั้งครรภ์ อาจเกิดความกังวลใจ เนื่องจากการตั้งครรภ์นั้น ทำให้ระบบต่างๆ ในร่างกายมีการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะระบบการทำงานของปอด ที่อาจมีประสิทธิภาพลดลง ทำให้แม่ต้องการออกซิเจนเพิ่มมากขึ้น ระบบภูมิคุ้มกันเปลี่ยนแปลงไป และอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนจากโรคระบบทางเดินหายใจ โดย Dr. Kjersti Aggaard แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเวชศาสตร์มารดาและทารก ประจำโรงพยาบาลเด็ก แห่งรัฐ เท็กซัส สหรัฐอเมริกาได้กล่าวไว้ว่า หากแม่ตั้งครรภ์มีการติดเชื้อแล้วอาจมีเกณฑ์ป่วยหนักมากกว่าคนทั่วไป และอาจมีภาวะแทรกซ้อนทั้งปอดและหัวใจได้ ซึ่งในสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ที่ยังไม่คลี่คลายนี้ ยิ่งอาจทำให้แม่มีภาวะเครียดเพิ่มมากขึ้นเป็น โดยเฉพาะแม่ตั้งครรภ์ที่ยังต้องออกไปทำงาน หรือต้องพบปะคนจำนวนมาก
ด้วยเหตุนี้แม่ตั้งครรภ์ รวมถึงแม่ที่ให้นมบุตร จึงต้องให้ความสำคัญกับพฤติกรรมการใช้ชีวิต อีกทั้ง ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค COVID-19 อย่างเคร่งครัด โดยอาจทำได้ดังนี้
- แม่ตั้งครรภ์ ควรพบแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอ
- หลีกเลี่ยงการ ออกนอกบ้าน หากต้องออก ให้ปฏิบัติตามหลัก Social Distancing และหลีกเลี่ยงสถานที่แออัด
- สำหรับแม่ให้นม หากแม่ไอ หรือจาม ให้ทำความสะอาดร่างกาย หรือบริเวณเต้านม ก่อนให้นมลูก
- ไม่อยู่ใกล้ชิดผู้ป่วย หรือเว้นระยะห่าง เพื่อป้องกันละอองมูลฝอย
- แยกของใช้ส่วนตัว
- รับประทานอาหารปรุงสุก
- สังเกตตนเองอยู่เสมอ
- ทำกิจกรรมเพื่อผ่อนคลายความเครียด
